
ระเบิดลงนครบาล ชูวิทย์ แฉ ตำรวจรีดเงิน ดาราสาวไต้หวัน จริง ซ้ำแต่งเรื่อง ทำลายหลักฐาน
ความคืบหน้ากรณี ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความ ลงสื่อออนไลน์ กล่าวหาว่า เธอถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง เรียกรับเงิน มากถึง 27,000 บาท แลกกับการ ถูกปล่อยตัว ระหว่างถูกตรวจหาในด่านของตำรวจ ขณะเดินทาง มาท่องเที่ยวไทย ช่วงปีใหม่ ซึ่งตำรวจ ก็ได้ออกมา ยืนยันว่า ไม่ได้มี การเรียกรับเงิน
พร้อมระบุว่า ดาราสาวไต้หวันมีอาการมึนเมา และค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าในกระเป๋าซึ่งไม่ถูกกฎหมาย แต่ว่าก็ไม่ได้มี การดำเนินคดีใดๆก็ตาม โดยมีพยาน เป็นคนขับแกร็บ และคนขับแท็กซี่ ที่รับส่ง ดาราสาวไต้หวัน ในคืนเกิดเหตุ
ล่าสุด (30 เดือนมกราคม66) เมื่อเวลา 01.00 น. ผู้รายงานข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้เปิดโปงขบวนการทุนจีนสีเทา ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะเจ้าตัวใส่เสื้อกล้ามสีดำ ยืนเอามือปิดจมูกที่หน้า สน.ห้วยขวาง พร้อมระบุข้อความว่า
ด่วนที่สุด! ตำรวจรีดเงิน ดาราสาวไต้หวัน จริง
ระเบิดลงนครบาล!
เมื่อเย็นนี้ ผบช.น. ให้โฆษกฯ แถลงข่าวยืนยันว่า ตรวจสอบแล้ว ไม่มีตำรวจห้วยขวางเรียกรับผลตอบแทนแต่ปรากฏว่า มีหญิงคนไทย แฟนเป็นคนสิงคโปร์ ที่ไปร่วมวงพบปะดื่มเหล้ากับดาราสาวไต้หวัน
ให้การยืนยันว่า ได้เป็นผู้จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับตำรวจที่ตั้งด่านด้วยตัวเอง! และมีคลิปยืนยันด้วย เพราะว่ามีความเห็นว่าการแถลงข่าวเมื่อเย็นของนครบาลยังปากแข็ง ไม่ยอมรับ
ทำให้ตำรวจห้วยขวางชุดที่ตั้งด่าน เพิ่งรับสารภาพสดๆร้อนๆว่ารีดเงิน 27,000 บาท จริง!
ก่อนหน้านี้ ผบช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ใช้ให้ลูกน้อง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการ น.1 และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง ไปวางแผนทำอับอายขายหน้า หลายเรื่อง
1. ลบคลิปที่ด่านหน้าสถานทูตจีน
2. ลบคลิปกล้องบนหมวกของตำรวจที่ด่าน
3. กล่อมให้ผู้ขับแกร็บยืนยันว่าดาราสาวไต้หวันเมามาก พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ที่ด่านแค่ 40 นาที แล้วอ้างว่ากล้องหน้ารถบันทึกได้แค่ 20 วัน จึงไม่มีภาพ
4. ปล่อยคลิปสารพัดเพื่อดิสเครดิตดาราสาวไต้หวัน
5. ตอบโต้ แก้ตัวแทนลูกน้องตนเอง โยนไปว่าสาวไต้หวันแต่งเรื่อง
ผู้บังคับบัญชาตำรวจ เห็นท่าไม่ดี สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การฯ ศูนย์สืบสวนนครบาล รีบบินด่วนเพื่อไปสอบปากคำจากดาราสาวไต้หวัน
พร้อมกับที่สาวไทยที่ไปเที่ยวด้วยกัน มาให้ข้อมูลว่าเป็นคนจ่ายเงิน 27,000 บาทด้วยตนเอง
ทีม บชน. จึงชิงกลับลำ ให้ตำรวจห้วยขวางสารภาพเสียดีกว่า ระเบิดจึงลงที่นครบาลอีกรอบ พังไม่เป็นท่า วันจันทร์คงแบกหน้าสารภาพผิด
เรื่องสำนวน “ตู้ห่าว” ยังมีกลิ่นตุๆไม่หาย ยังมาทำเรื่อง “สาวไต้หวัน” ให้กลิ่นเหม็นเน่าเข้าไปอีก
เพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว กลับเจอด่านรีดไถ เพราะว่าบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เอี้ยวไม่พอ ที่สำคัญยังไป “แต่งเรื่อง” ทำลายหลักฐาน ไม่ยอมรับความจริง กลับโทษสาวไต้หวันคนพูดความจริงเสียอีก
ตำรวจนครบาลภายใต้การกำกับของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง เจ้าเก่าอีกแล้ว แทนที่จะกล้ายอมรับความจริง จัดการให้คนต่างชาติเขาเห็นว่า พวกเราเอาจริงกับตำรวจรีดไถ ดันแต่งเรื่องช่วยปกป้องคนผิด โยนว่าสาวไต้หวันเมา
ผมบอกท่านนายกฯ ไว้แล้ว เมื่อวันไปพบที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ดันไม่เชื่อผม ให้ ผบช.น. คนนี้อยู่นครบาลต่อไป ยังมีระเบิดลงอีกเป็นลูกระนาด
ดาราสาวไต้หวัน ท้าตำรวจไทยเปิดกล้อง CCTV ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยรอปล่อยทีเดียว
ดาราสาวไต้หวัน ท้าพิสูจน์ตำรวจไทย เปิดกล้อง CCTV ด้านผกก.สน.ห้วยขวาง เผย รอความชัดเจนแล้วปล่อยทีเดียว วันนี้ (27 มกราคม 66) พันตำรวจเอกยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดาราสาวชาวไต้หวันอ้างว่าถูกตำรวจไทยตั้งด่านรีดเงิน 27,000 บาท ขณะที่มาเที่ยวประเทศไทยตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ภายหลังได้เรียกให้คนขับแกร็บ รถมาสด้าสีแดง ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ว่า เบื้องต้นได้หลักฐานมาแล้วพอสมควร
ขณะเดียวกันในตอนนี้ดาราสาวชาวไต้หวันไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ว่าจะมีการเรียกตัวกลับมาให้ข้อมูลหรือเปล่า จะต้องรอดูว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะว่าอย่างไร
เมื่อถามว่าจากการไต่สวนพยานรวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วบางส่วน ยังคงมั่นใจในตำรวจใต้บังคับบัญชาหรือไม่ ว่าไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์ตามการกล่างอ้างของดาราสาวชาวไต้หวัน พันตำรวจเอกยิ่งยศ กล่าวว่า ในส่วนนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน
เมื่อถามย้ำว่าสรุปแล้วมีการเรียกรับเงิน 27,000 บาท หรือไม่ พันตำรวจเอกยิ่งยศ ยังคงย้ำว่า ยังตอบในจุดนี้ไม่ได้ เพราะว่าอยากให้รอหลักฐานชัดเจนก่อน จึงจะสามารถสรุปได้
ทั้งนี้ หากผลออกมาแล้วไม่ได้เป็น ดังที่ดาราสาวชาวไต้หวันกล่าวอ้าง
จะมีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ผู้กำกับการสน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี รอให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และหากเป็นคนประเทศไทยทำเหตุการณ์แบบนี้ จะเป็นอย่างไร้บ้างนั้น พันตำรวจเอกยิ่งยศ กล่าวว่า อย่าพึ่งเทียบเคียงกันเลยดีกว่าเพราะว่าในส่วนนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย
ขณะเดียวกันดาราสาวชาวไต้หวันได้โพสต์ Story IG ประมาณว่าให้ตำรวจไทยหยุดใส่ร้ายป้ายสีเธอได้แล้ว และให้ตำรวจไทยเปิดหลักฐานกล้อง CCTV ออกมาดูประเด็นนี้ อย่างไรบ้าง ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า รอความชัดเจนแล้วปล่อยทีเดียว
เมื่อถามคำถามว่ามีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถกู้ชื่อเสียงตำรวจไทยกลับมาได้ พันตำรวจเอกยิ่งยศ ยังยืนยันว่าให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ถ้าหากเรียบร้อยแล้ว ทุกๆอย่างจะแจ่มแจ้งเอง เมื่อถามย้ำอีกว่า มั่นใจหรือเปล่า พันตำรวจเอกยิ่งยศ ไม่ยืนยัน แต่บอกทำนองว่าให้ข้อมูลแค่นี้ดีกว่า